kahonoii blog

Friday, May 1, 2015

[How to Play ] Neko Atsume เกมล่อแมว
May 01, 20150 Comments


ช่วงนี้มีเกมที่ใครหลายคนเล่นกัน บางคนอาจเรียกว่าเกมเลี้ยงแมวแต่ความจริงแล้วมันเป็นเกม "ล่อแมว" ต่างหาก เกมที่ว่าก็คือ Neko Atsume

หลักการเล่นก็ง่ายๆ แค่วางอาหาร วางของเล่น รอใหม่แมวเข้ามาเล่นในบ้านก็เท่านั้น... ความสนุกก็อยู่ที่การลุ้นแมวตัวใหม่ๆ ของขวัญจากแมว คล้ายกับการเล่นเกมโปเกมอนโดยมีเปา้หมายคือจับให้ได้ทุกตัว แทนที่จะชนะลีค

วิธีการเล่น
เริ่มต้นมาเราจะมีพื้นที่ให้เล่นแค่นอกบ้าน(สามารถขยายได้ในภายหลัง) มีระบบสอนเล่นเบื้องต้นให้ทำความเข้าใจ(แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจ) โดยวิธีการล่อแมวเข้ามาก็คือการวางอาหาร และของเล่น

เมนู
เข้าหน้าเมนูได้โดยการกดรูปมือแมวที่มุมบนซ้าย โดยมีเมนูหลักๆ ตามที่เห็นในรูป บางครั้งเมื่อเข้าหน้าเมนูอาจเห็นแมวคาบโปสเตอร์ที่มุมขวาไม่ต้องไปสนใจ มันเอาโฆษณษมาฝากเราเฉยๆ

  • หน้าแมว - ใช้ในการเลือกดูอัลบั้มสะสมแมวที่เข้ามาเยี่ยมบ้าน
  • ถุงหิ้ว - ใช้ในการเลือกซื้อสินค้าต่างๆ มาตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของเล่น ขยายบ้าน
  • สิ่งของ - ใช้ในการตกแต่งบ้าน โดยจะมีสิ่งของที่ซื้อไว้ให้เลือกวางตามจุดต่างๆ
  • กล้อง - ถ่ายภาพ จะถ่ายแมวเฉพาะตัวเพื่อใช้ในการสะสม(ใส่อัลบั้มแมว) ถ่ายพื้นที่เฉพาะส่วน(ตามการแสดงผลของจอในขณะนั้น) หรือจะถ่ายภาพรวมทั้งหมดของบ้าน 
  • แมว - คำสั่งกลับมายังหน้าพื้นบ้าน เช่นกำลังซื้อของอยู่ กดเข้าหน้าเมนู กดแมว เราก็จะกลับมาหน้าพื้นที่บ้าน
  • ปลาตากแห้ง - ทุกครั้งที่แมวเล่นเสร็จจะมอบปลาให้ สามารถดูปลาทั้งหมดที่แมวมอบให้ได้จากหน้านี้ 
  • Setting - ปรับลดเสียง
  • หัวใจ - ของตอบแทนพิเศษที่แมวจะมอบให้เมื่อแมวประทับใจเรามากที่สุด(แมวที่มาเล่นบ่อยๆ)
  • คำถาม - ความจริงแล้วคำสั่งนี้คือ "คู่มือการเล่น" แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น มีภาพประกอบ
  • บ้าน - เปลี่ยนดีไซน์บ้าน (ใช้ปลาสีทองซื้อ) จำเป็นต้องขยายบ้านก่อน(180 ปลาตากแห้งสีทอง)
  • ข่าวสารประจำวัน
  • จดหมาย - สิ่งความเห็นถึงทีมพัฒนา(มีคำสั่งรับปลาฟรีประจำวันด้วย)

หน่วยเงิน
หน่วยเงินในเกมจะมีอยู่ 2 ชนิดที่ใช้ในการซื้อของเข้ามาล่อแมว ซึ่งปลาทั้ง 2 ชนิดจะได้มาจากเหล่าแมวที่เข้ามาเยี่ยมบ้าน

ปลาตากแห้งธรรมดากับปลาตากแห้งทอง
 แมวจะให้ผลตอบแทนมาในลักษณะนี้


อาหาร
อาหารภายในเกมจะมีทั้งหมด 6 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีเวลาหมดไม่เท่ากัน (จิ้มจานอาหารจะมีเกจบอกระยะเวลา) ไม่ควรปล่อยให้อาหารหมดเพราะจะทำให้แมวไม่เข้ามาเล่นในบ้าน
  • อาหารฟรี - 8 ชั่วโมง
  • อาหารจานทอง - 6 ชั่วโมง
  • อาหารกระป๋องฟ้า - 3 ชั่วโมง
  • อาหารกระป๋องติดป้าย - 3 ชั่วโมง
  • อาหารกระป๋องม่วง - 3 ชั่วโมง
  • ปลาดิบ - 3 ชั่วโมง
อาหารเหล่านี้จะค่อยๆ หมดไปตามระยะเวลาที่กำหนดยกเว้นกรณี แมวอ้วน ที่จะฟาดเรียบทันที แต่ไม่ควรเติมอาหารตอนแมวอ้วนยังอยู่เพราะจะทำให้ได้ปลากลับมาน้อย

ประวัติแมว
แมวแต่ละตัวจะมีประวัติ(สถิติ) มีชื่อ ของชอบ ของขวัญ
เราสามารถตั้งชื่อแมวได้คลิกที่ชื่อเดิม และแก้ไข สามารถตั้งเป็นภาษาไทยได้
ค่าพลังจะบ่งบอกโอกาสการมาเล่นของเล่นที่ชอบ ยิ่งค่ามากก็ยิ่งมาเล่นของเล่นที่ชอบมากกว่าตัวพลังน้อยกว่า ซึ่งแต่ละตัวก็ความชอบต่างกันไป

คุสึชิตะซัง แมวดำใส่ถุงเท้า(เท้าขาว) มีถุงเท้าเป็นของรางวัล

ถ่ายรูปแมว
การถ่ายรูปแมวทำได้ง่ายๆ เพียงกดเมนูกล้องมีคำสั่ง 3 ชนิดคือ
  • ถ่ายแมว
  • ถ่ายเฉพาะส่วนแสดงผล
  • ถ่ายทั้งบ้าน
ถ้าเราเลือกคำสั่งถ่ายแมวจะมีช่องโฟกัสขึ้นมาที่รูปแมว สามารถเลือกแมวได้ การถ่ายทำได้โดยการทัชที่ช่องโฟกัส 

รูปถ่ายแมวทั้งหมดจะอยู่ใน อัลบั้มแมว สามารถเข้าชมได้ผ่านคำสั่งหน้าแมว โดยจะแยกรูปภาพตามแมวตัวต่างๆ ที่เข้ามา สามารถเลือกภาพที่ถ่ายให้แสดงในหน้าอัลบั้มรวมได้(ทัชภาพที่ชอบ)


ของขวัญ
เมื่อแมวรักแมวหลงจะได้ของรางวัล ซึ่งของเหล่าน้มีผลต่อความภูมิใจ พอใจของเราเฉยๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับเกม แมวจะมอบของให้เราเมื่อเราเข้าเกม

  
ซื้อของ
เข้เมนูซื้อของจะมีสินค้ามากมายให้ซื้อ โดยจะแบ่งเป็นปลาตากแห้งกับปลลาตากแห้งสีทอง ของบางชนิดจะดึงดูดแมวหายากเข้ามาอาจต้องลงทุนซื้อสินค้าที่ใช้ปลาสีทอง เมื่อซื้อแล้วจะมีตราประทับบอกว่าซื้อแล้ว

ตราประทับแสดงว่าซื้อกล่องกระดาษแล้ว

แต่งบ้าน
เข้าเมนูแต่งบ้าน เลือกสิ่งของ จะแสดงพื้นที่ที่สามารถวางของได้ ซึ่งของบางชนิดอาจใช้ 2 บล็อก พื้นที่ไหนไม่สามารถวางได้จะแสดงผลกากบาทสีแดง
หากก่อนหน้ามีแมวนอนอยู่หรือเล่นของเล่นอยู่ ถ้าเราวางของทับพื้นที่นั้นแมวจะหายไปจากตรงนั้นทันที (รวมถึงแมวอ้วนที่นอนกินข้าวอยู่)


สรุป
เป็นเกมเล่นไม่ยาก แก้เบื่อ ลุ้นสนุกกับแมวใหม่ๆ ถ่ายรูปแมวเล่นของเล่น เป็นเกมที่ทำให้สัมผัสถึงชีวิต Slow life นอนเล่นอยู่บ้านวางของล่อแมว เล่นกับแมว เปรียบดังเราเป็นคนวัยชราที่ไม่มีอะไรทำนอกจากเล่นกับแมวที่หลงมา เกมไม่มีอะไรมากแต่สนุกเพลินๆ ดี
Reading Time:

Wednesday, August 27, 2014

Bakumatsu Rock ปฏิรูปประเทศของชาวร๊อค
August 27, 20141 Comments
อนิเมะซีซันใหม่เริ่มมาได้พักใหญ่ ซึ่งซีซันนี้ก็มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่จำนวนไม่น้อย และหนึ่งในเรื่องที่ชอบประจำซีซันนี้ก็คือ Bakumatsu Rock!! 
Bakumatsu Rock พัฒนาเรื่องมาจากเกม ซึ่งตรงนี้ไม่เคยเล่นก็ไม่ขอพูดถึงก็แล้วกัน แต่จุดเด่นอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คือตัวละครหลักล้วนเป็นหนุ่มหน้าใสหลากหลายสไตล์ที่หลายคนเห็นปุ้บก็ถึงกับตบเข่าฉาดว่าเรื่องนี้มันขาย Y แน่ๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจที่หยิบมาพูดในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่อง Y หรืออย่างไร แต่เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่สอดแทรกมาในเรื่อง ทั้งยังมีประเด็นเสียดสีวงการดนตรีญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันอยู่ไม่น้อย 

5 ตัวละครหลัก
Bakumatsu Rock ดำเนินเรื่องผ่านตัวละคร ซากาโมโตะ เรียวมะ (ผมแดง) ที่ต้องการทำให้ดนตรีร๊อคแพร่หลายให้ได้ ท่ามกลางกระแสสังคมที่เต็มไปด้วยเพลงสวรรค์ที่มาจากรัฐบาล โดยตัวละครที่มาร่วมเล่นดนตรีกับเรียวมะก็คือ คาสึระ โคโกโร่(หนุ่มแว่น) ทาคาสึกิ ชินซากุ(ผมฟ้า) และมีกลุ่มศัตรูเป็นกลุ่มไอดอลชินเซ็นกุมิที่คอยขับกล่อมเพลงสวรรค์ให้แก่ประชาชนโดยมีแกนนำเป็น คอนโด อิซามิ ฮิจิคาตะ โทชิโซ(ผมดำ) และโอคิตะ โซจิ(ผมม่วง)

เรื่องย่อของ Bakumatsu Rock คงจะประมาณนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่สะกิดใจ...ไม่สิ หากใครสัมผัสเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นมาไม่บ้างก็น้อยอาจคุ้นหูกับชื่อตัวละครเหล่านี้ ใช่แล้ว ชื่อตัวละครพวกนี้ชื่อซ้ำกับตัวละครในเรื่อง Gintama!!

ร้านรับจ้างสาระพัด Gintama การ์ตูนดังจาก Jump (LC โดย SIC)
จุดร่วมของการ์ตูนทั้ง 2 เรื่องคือกลุ่มตัวละครที่มีชื่อเหมือนกัน โดยชื่อตัวละครที่กล่าวมานั้นได้มาจากบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น (Gintama จะแผลงชื่อตัวละครด้วยคันจิที่ออกเสียงได้หลากหลายทำให้ชื่อไม่ตรงกับชื่อจริงเสียทีเดียว)

เนื้อหาของการ์ตูนทั้ง 2 เรื่องจะดำเนินในคนละแนวทาง แต่สิ่งที่เป็นธีมของเรื่องทั้ง 2 คือเรื่องราวประวัติศาสตร์ ทั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ในช่วงความวุ่นวายก่อนสิ้นสุดระบบโทคุงาวะ(ก่อนนับปีศักราชเมจิ) กล่าวคือนำเสนอในเรื่อง การปฏิรูปเมจิ

กลับมาที่เรื่อง Bakumatsu Rock....เรื่องนี้จะค่อนข้างชัดเจนถึงการนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ยุคปฏิรูปเมจิ(Bakumatsu เป็นชื่อเรียกช่วงเวลาก่อนสิ้นสุดระบบการปกครองโทคุงาวะ) การปฏิรูปเมจิ นั้นเกิดขึ้นโดยกลุ่มซามูไรที่ต้องการล้มการปกครองของระบบโทคุงาวะให้อำนาจกลับไปเป็นของพระจักรรพรรดิอีกครั้ง

หลายคนอาจสับสนเรื่องระบบการปกครองของญี่ปุ่นในอดีต...ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปกครองแบบจักรวรรดินิยมโดยมีพระจักรพรรดิเป็นผู้นำจักรวรรดิ โดยผนวกเข้ากับความเชื่อทางศาสนาว่าพระจักรพรรดิสืบเชื้อสายตระกูลมาจาก อะมะเทราสึ หรือเทพแห่งอาทิตย์ อันเป็นความเชื่อในศาสนาชินโตซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติตั้งแต่อดีต และมีโชกุนเป็นหัวหน้าสูงสุดของรัฐบาลบาคุฟุ (รัฐบาลทหารหรือรัฐบาลในกระโจม)

กลุ่มชินเซ็นกุมิที่เป็นองค์ประกอบหลักของรัฐบาลบาคุฟุ

ทั้งนี้ในอดีตโชกุนจะมีหน้าที่ประดุจดาบข้างกายของพระจักรพรรดิ แต่ในยุคโทคุงาวะนั้นไม่เป็นเช่นนั้น โทคุงาวะ อิเอยาทสึ ได้พยายามผลักดันตนให้เป็นตัวแทนที่เชื่อมกับสวรรค์(แทนที่พระจักรพรรดิ) มีการลดทอนอำนาจราชวงค์ลงด้วยเหตุที่ราชวงค์กำลังอ่อนแอ และทำให้ตระกูลโทคุงาวะปกครองประเทศญี่ปุ่นนานกว่า 200 ปี (รายละเอียดไว้เพิ่มเติมคราวหน้า) - สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดก็คือ โชกุนคือจักรพรรดิ ถ้าจะเปรียบกับการปกครองสมัยใหม่ให้เข้าใจง่ายก็คือ โชกุนคือนายกรัฐมนตรี (อาจไม่ถูกต้องนักแต่พออ้างอิงให้เห็นภาพได้)

การปฏิรูปเมจิ นั้นเกิดขึ้นโดยมีกลุ่มไดเมียวและซามูไรจำนวนหนึ่งเห็นว่าการเข้ามาของต่างชาติที่มากเกินไปนั้นไม่เป็นผลดี (ตามสัญญาเปิดประเทศที่ทำไว้กับนายพลเรือเพอร์รี่แห่งสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ) และต้องการให้พระจักรพรรดิคืนอำนาจอีกครั้งหลักจากถูกกกดขี่ผ่านระบบการปกครองโทคุงาวะมานานปี (ในยุคแรกของระบบนี้ค่อนข้างดีแต่ภายหลังระบบเกิดความถดถอยและไม่พัฒนา) โดยการปฏิรูปในครั้งนี้มีแกนนำคือ โยชิดะ โชอิน ซึ่งในเรื่อง Bakumatsu Rock จะเรียกว่า โชอินเซนเซย์ ชายผู้ได้ชื่อว่าปราชญ์แห่งซามูไร

โยชิดะ โชอิน ที่มากับผมทรงแอฟโฟร่

โยชิดะ โชอิน เป็นทั้งนักวิชาการและซามูไร เขาได้เผยแพร่ความรู้และชักชวนซามูไรมากมาย ตั้งกลุ่มอย่างลับๆ โดยในกลุ่มนักปฏิรูปก็มีตัวละครหลักกลุ่มร๊อคทั้ง 3 อย่างเรียวมะ คาสึระ และชินซากุ ฝั่งรัฐบาลก็ไม่น้อยหน้า พวกเขามีกลุ่มชินเซ็นกุมิ(เปรียบเหมือนตำรวจ) คอยเฝ้าระวังและดูแลความเรียบร้อย โดยมีคอนโด โอคิตะ และฮิจิคาตะเป็นตัวนำ โดยมีเบื้องหลังคืออี นาโอสุเกะ(หัวหน้าคณะมนตรี) คอยกำกับอยู่บ้างหลัง

ก่อนที่บล๊อกจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ล้วน ก็วกเข้าเรื่องการ์ตูนอีกรอบ...

Bakumatsu Rock เล่าเรื่องการปฏิรูปเมจิออกมาในแบบแฟนตาซี และผนวกเข้ากับคอนเซปเพลงร๊อคและเสียดสียุคไอดอล(ไว้ค่อยพูดถึง) ภายในเรื่องมีองค์ประกอบหลักที่แสดงถึงภูมิปัญญาทางตะวันตกที่ผ่านการดัดแปลงให้เข้ากับเรื่องแล้วนั่นก็คือ "เครื่องดนตรี" ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ใช้แทนถึงวิทยาการของชาวตะวันตกที่กลุ่มเรียวมะ(ตามประวัติศาสตร์) ใช้ในการช่วยในการปฏิรูป เช่นหลักคิดด้านการศึกษา การกระจายความรู้ และอื่นๆ

ซึ่งว่าการดัดแปลงเรื่องราวประวัติศาสตร์ออกมาในรูปแบบนี้ค่อนข้างน่าสนใจ ทั้งยังมีเส้นเรื่องของตนเอง ทำให้การชม Bakumatsu Rock จะได้ความหลากหลายในการดู ไม่ว่าจะด้านแฟนตาซีแบบการ์ตูนหรือแบบประวัติศาสตร์ - ควรดู!

------------------------------------------------

ปล.บล๊อกรอบนี้น่าจะเป็นบล๊อคเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากกว่า
ปล.รอบหน้าจะเล่าเรื่อง "ร๊อค" กับ "ไอดอล"
ปล.ทำไมจู่ๆ ก็ตัดจบบล๊อก

Reading Time:

Tuesday, July 8, 2014

[Review] COLOUD BOOM หูฟังสุดจี้ดที่ไม่ได้มีดีแค่สี
July 08, 20140 Comments


เมื่อช่วงอาทิตย์ก่อนในขณะที่กำลังนั่งเรือโดยสารชมบรรยากาศริมคลองแสนแสบ (ใช่เหรอ?) ด้วยความที่เสียงเครื่องยนต์มันช่างแหลมสูงจนปวดหัวจึงหยิบหูฟัง SONY ตัวเก่งขึ้นมาเพื่อบรรเทาเสียงอันน่ารำคาญ...ว่ากันตามจริงแล้ว “หูฟังตัวเก่ง” ที่ว่าคือหูฟังที่แถมมากับ Xperia TX ที่ซื้อเมื่อปีก่อนนู้น
อาการหูฟังเสียนี้ก็เป็นอาการทั่วไปที่ใครๆ ก็เคยเจอคือสายสัญญาณขาด ซึ่งส่วนตัวแล้วเจอสภาพนี้มาหลายครั้งหลายคราเฉลี่ยแล้วก็เปลี่ยนหูฟังเกือบทุกปี จะมีก็ตัวนี้ที่นานกว่าใคร แล้วซื้ออะไรมาใช้แทนดี? คำถามนี้คิดไม่ตกเพราะตลาดหูฟังก็แข่งกันไม่แพ้มือถือ แถมอยากฟังเสียงเทพๆ ราคาก็เอื้อมไม่ถึง...และหูไม่ถึงด้วย จนมาพบกับหูฟังตัวนี้ COLOUD BOOM

จริงๆ ก็ไม่ได้รู้จักอะไรหรอกเพราะไม่ได้ตามฝั่งหูฟังเลย...เพราะหูไม่ถึงนี่แหละ แล้วทำไมถึงรู้จักได้ สาเหตุเป็นเพราะไอดอลล้วนๆ คือเพลง Natsu no Free & Easy ของวง Nogizaka46 ที่ทั้ง PV อุดมไปด้วยหูฟังหลากหลายยี่ห้อ และตัดสินใจเอาตัวนี้ตามสมาชิกวงที่ชอบที่สุดคืออิโคมะ รินะ


COLOUD เป็นแบรนด์หูฟังที่เด่นในเรื่องดีไซน์ โดยมีสีสันสดใสกระแทกใจวัยรุ่นแถมยังมีสีให้เลือกหลากหลาย และนอกจากรูปลักษณ์แล้วการใช้งานก็ยังง่ายและครอบคลุมมาก โดยไลน์สินค้าจะแบ่งเป็น THE POP, THE KNOCK และ THE BOOM ซึ่ง THE POP จะเป็นไลน์สินค้าเดียวที่เป็นหูฟังแบบ In-ear และสินค้าที่แพงที่สุดก็คือ COLOUD BOOM



ดีไซน์

COLOUD BOOM มาด้วยสายสัญญาณแบบสมัยนิยมคือ “สายแบน” เพื่อป้องกันการพันกันของสาย และมาพร้อมหัวเสียบแบบ 3.5 มิลลิเมตร แต่มีความพิเศษตรงสายสัญญาณใกล้หัวเสียบจะงอได้และมีรูปสำหรับเสียบหัวเสียบเวลาเก็บสายสัญญาณ (ในคู่มือมีวิธีเก็บสายด้วย)
สำหรับส่วนครอบหูในคู่มือโม้ไว้ว่าออกแบบให้เข้ากับองศาของหูที่หลากหลาย ส่วนตัวใช้แล้วพบว่ากำจัดเสียงภายนอกได้ดีในระดับหนึ่ง ให้เสียงก้องรอบด้านมีมิติไม่น้อย แต่เมื่อใช้เป็นเวลานานมักปวดบริเวณใบหูเพราะมีวัตถุกดทับซึ่งเป็นปกติของหูฟังชนิดนี้ สำหรับโฟมรองนั้นนิ่มกำลังดี ส่วนสายคาดหัวก็มีโฟมรองเช่นกัน (รุ่น KNOCK สายคาดจะเป็นพลาสติกล้วน)
วัสดุของหูฟังทำจากพลาสติก ในใบคู่มือแนะนำให้ทิ้งในถังขยะอิเล็คทรอนิกส์ อนึ่ง ในคู่มือโม้ไว้ว่าพลาสติกที่ใช้ผลิตหูฟังสามารถนำมารีไซเคิลได้ รักโลกจริงๆ

ลองเสียบกับ Surface 2

เสียง

ในคู่มือมีอธิบายไว้แต่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่จากที่ลองฟังมาได้สักพักพบว่าเสียงที่ได้นั้นครอบคลุมทั้งสูง กลาง ต่ำ ไม่รู้สึกขาดหรือเกินไป จะมีบ้างก็ตรงที่เสียงต่ำจะชัดเจนกว่าเสียงสูง เช่นเพลงฝั่ง J idol ที่มีโทนเสียงสูงมากหน่อยแต่ไม่ได้รู้สึกลำบากเกินไป โดยเพลงที่เหมาะกับหูฟังชนิดนี้ก็ได้ทุกแนวเพลงแต่จะออกกลางๆ มากกว่า คือไม่จัดไปว่าต้องเป็นเพลงแนวใดแนวหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ถ้าเพลงที่เน้นเสียงสูงเป็นจำนวนมากก็ไม่แนะนำเท่าไรเพราะเสียงสูงจะขับออกมาได้ไม่ใสเท่าที่ควร เช่นเพลงของ Kyary Pamyu Pamyu แต่ฟังได้นะ เพลง Rock ก็ลองแล้วรู้สึกเสียงแน่นดี กลองตุ้บตั้บ ตอนลองก็ RHCP บ้าง Paramore บ้าง ONE OK ROCK บ้าง Nirvana บ้าง ไม่รู้สึกขัดเท่าไร อย่างแนวเมทัลก็ลอง BABYMETAL (เลือกที่เพลงที่ดนตรีเน้นเมทัล) ก็จัดว่าพอเหมาะ - แต่ถ้าอยากได้เสียงดีๆ คงต้องหาที่ดีกว่านี้ และรีวิวดีกว่านี้ อันนี้มาแบบหูบ้านๆ เลยนะ

การใช้งาน
ตัว COLOUD BOOM จะมีไมโครโฟนและมีปุ่มควบคุมการใช้งานอยู่ 1 ปุ่ม
·      กด 1 ครั้งจะเป็นการ Play และ Pause ในโหมดโทรศัพท์กดครั้งแรกจะเป็นการรับสาย และอีกครั้งเพื่อวางสาย
·      กด 2 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงถัดไป
·      กด 3 ครั้งเพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
ทาง COLOUD บอกว่าการควบคุมดังกล่าวเป็นมาตรฐานทั่วไปที่มีใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Blackberry HTC และ Apple - ทั้งนี้อย่างที่รู้ว่ามือถือ SONY ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาความเข้ากันได้กับหูฟังยากมาก บ้างก็โทรไม่ได้ เสียงไม่ออก แต่ไม่มีปัญหากับ COLOUD
ปุ่มควบคุม

การสวมใส่ อย่างที่รู้ว่าหูฟังชนิดนี้มักนำมาห้อยคอ อันนี้ไม่แนะนำเท่าไรเพราะขอบสายคาดมันจะมาจิ้มตรงคอพอดี มันค่อนข้างเจ็บแม้จะใช้เป็นยางที่ไม่แข็งมากแต่มันจิ้มนานๆ ก็เกิดอาการ แต่ไปเห็นของต่างประเทศมาหูฟังจำพวกนี้เขาเอาไปหนีบกล่องใหญ่ๆ ก่อนให้ขามันถ่างๆ เพื่อเวลาใช้จริงจะไม่บีบแรงเกินไป

สรุป

เป็นหูฟังที่ดีไซน์สวย การใช้งานทำได้ดีครอบคลุมกิจกรรมการใช้งานพื้นฐาน ให้เสียงกำลังเหมาะแต่จุดด้อยก็คงเป็นเสียงที่ยังทำเสียงสูงที่ไม่ใส่ชัดเจน และการควบคุมที่ไม่มีปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียง ทำให้การเพิ่มลดไม่สะดวกเท่าที่ควร

สำหรับใครที่อยากได้หูฟังสีสวยๆ เจ็บๆ คุณภาพเสียงไม่แย่ ก็ถือว่า COLOUD BOOM เป็นหูฟังที่มีคุณภาพคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวเพียงแค่ 990 บาท หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป

 

 

 
Reading Time:

Sunday, June 29, 2014

Silent Siren เกิร์ลแบนด์มันแจ่มมาก!
June 29, 20140 Comments



เมื่อวันก่อนขณะนั่งเล่นเน็ตเพลินๆ ก็บังเอิญไปเห็นบล็อก (หรือทวีต) ของ มัตสึอิ เรนะ แห่งวง SKE48 (ควบ Nogizaka46) ที่โพสต์รูปแผ่นซิงเกิ้ลของไอดอลวงหนึ่ง ตอนนั้นก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้ใส่ใจ...
 
หลังจากนั้นประมาณ 2 วัน ด้วยความที่อยากฟังเพลงญี่ปุ่นอื่นๆ นอกเหนือจากไอดอลกรุ๊ปที่ฟังก็ลองไปคุ้ยๆ ดู และได้พบกับวงที่เรนะได้โพสต์ไว้ นั่นคือ Silent Siren
 
--------------------------------------------
 
Silent Siren วงดนตรีเกือบๆ ไอดอล ถ้าจะให้ถูกต้องตามหลักแล้ววงนี้จัดเป็น "วงดนตรีหญิง" หรือเกิร์ลแบนด์ เฉกเช่นเดียวกับวง SACANDAL ที่เป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง โดยแนวดนตรีของวงนี้จะเป็นเพลง Pop ฟังง่าย ที่ขับร้องด้วยโทนเสียงสูง สไตล์เดียวกับวงไอดอล (ของ SACANDAL จะเป็น Pop - Rock)
 
วงนี้ก่อตั้งในปี 2010 แต่เพิ่งจะมีผลงานเดบิวต์จริงๆ ก็ปี 2012 ที่ผ่านมา (ก่อนหน้านั้นแสดงในอีเวนต์อื่นๆ) จุดเริ่มต้นของวงนั้นเกิดจาก ซู (ร้องนำ/กีต้าร์) และฮินันชู (กลอง/หัวหน้าวง) ได้พบกันในระหว่างถ่ายแบบให้นิตยสาร CUTiE ทั้ง 2 ได้แลกเปลี่ยนความชอบด้านดนตรี และฮินันชูก็ได้ชักชวนเพื่อนอีก 2 คน ก็คือไอเนียน (กีต้าร์เบส) และยานะ (ซินธิไซเซอร์/ออกจากวงแล้ว) และได้แสดงในงาน AGESTOCK 2011 และเดบิวต์ในปี 2012 กับมินิอัลบั้ม SaiSai (อินดี้)
 
หลังจากออกมินิอัลบั้มที่ 2 Love Shire และจบทัวร์คอนเสิร์ต ยานะได้ออกจากวง หลังจากนั้นยูคารุน (คีบอร์ด) ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับวง และเมเจอร์เดบิวต์ในชื่อ Silent Siren
 
 
ไอเนียน ฮินันชู ซู ยูคะรุน (ซ้ายไปขวา)
 
 
สมาชิก
 
 
ชื่อ: โยชิดะ สุมิเระ
ชื่อในการแสดง: ซู
ตำแหน่ง: กีตาร์ / ร้องนำ
 
 
-------------------------------------------- 
ชื่อ: อุเมะมุระ ฮินาโกะ
ชื่อในการแสดง: ฮินันชู
ตำแหน่ง: กลอง / หัวหน้าวง
 
 
-------------------------------------------- 
ชื่อ: ยามะอุจิ ไอนะ
ชื่อในการแสดง: ไอเนียน
ตำแหน่ง: กีตาร์เบส
 
 
--------------------------------------------
ชื่อ: คุโระซากะ ยูคาโกะ
ชื่อในการแสดง: ยูคะรุน
ตำแหน่ง: คีบอร์ด
 
 
--------------------------------------------
 
ผลงาน
 
Albums
[2013.04.10] Start→
[2014.02.12] 31 Wonderland
 
Mini-Albums
[2012.02.08] Saisai (サイサイ) (indies)
[2012.07.04] Love Shiru (ラブシル) (indies)
 
Singles
[2012.11.14] Sweet Pop!
[2013.02.20] stella☆
[2013.08.14] Besan (ビーサン)
[2013.10.30] I × U
[2014.06.18] Lucky Girl (ラッキーガール)
[2014.08.13] BANG!BANG!BANG! (ยังไม่วางขาย)
 
--------------------------------------------
 
โดยสรุปแล้ววงนี้เป็นวงเกิร์ลแบนด์ป๊อบที่น่าสนใจไม่น้อย เหมาะสำหรับทางสายกลางที่อยากฟังเพลงแนวป๊อบเบาๆ แต่ไม่อยากฟังวงไอดอล (เรื่องมากว่ะ) ที่น่าสนใจคือทั้ง 4 คนเป็นนางแบบนิตยสารอีกด้วย
 
หลายคนก็สงสัยว่าแบบนี้ฝีมือด้านดนตรีจะเป็นไง ทำงานนอกแบบนี้เรื่องดนตรี แสดง จะไหวเหรอ มีบทสัมภาษณ์หนึ่งที่อ่านผ่านๆ มา จำไม่ได้ว่าใครพูด ปต่สรุปคือ ทั้ง 4 คนจะจัดซ้อมร่วมกันเสมอ อย่างน้อยๆ ก็อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง โดยจะนัดวันที่ทุกคนว่างตรงกัน นอกเหนือจากนี้ก็เป็นซ้อมส่วนตัวตามแต่ละคนว่าง สำหรับช่วงคอนเสิร์ตก็จะซ้อมกันทั้งเดือน... พอเห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกฝากผีฝากไข้ได้ว่าวงคงไม่ล่มเอาง่ายๆ - หลังจากนี้คงตามเพิ่มอีกวง
 
ทิ้งท้ายด้วยวิดิโอเพลงซิงเกิลล่าสุด Lucky Girl
 
 

 
 
Reading Time: